ตัวติดตามรถยนต์ 4G
ตัวติดตามรถ 4G ถือเป็นความก้าวหน้าอย่างมากในเทคโนโลยีการตรวจสอบยานพาหนะ โดยนำเสนอโซลูชันที่ครอบคลุมสำหรับการบริหารจัดการกองยาน การรักษาความปลอดภัยของยานพาหนะส่วนบุคคล และการป้องกันทรัพย์สิน อุปกรณ์อันทันสมัยนี้ใช้เครือข่ายเซลลูลาร์รุ่นที่สี่ (4G) เพื่อให้ข้อมูลตำแหน่งแบบเรียลไทม์ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถติดตามตำแหน่งยานพาหนะได้จากทุกที่ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ตัวติดตามรถ 4G รุ่นใหม่ๆ มีการรวมเทคโนโลยีหลายประเภทเข้าด้วยกัน เช่น การระบุตำแหน่งด้วยดาวเทียม GPS การสื่อสารผ่านเครือข่ายเซลลูลาร์ และระบบเซ็นเซอร์ขั้นสูง เพื่อให้สามารถติดตามตำแหน่งได้อย่างแม่นยำ อุปกรณ์นี้โดยทั่วไปมีดีไซน์ขนาดเล็ก กันน้ำ และสามารถติดตั้งได้อย่างแนบเนียนในตำแหน่งต่าง ๆ ของยานพาหนะ เพื่อให้ได้รับสัญญาณที่ดีที่สุดพร้อมรักษาความปลอดภัยไว้ ฟังก์ชันหลักประกอบด้วย การติดตามตำแหน่งแบบสด, การเล่นเส้นทางย้อนหลัง, ความสามารถในการกำหนดเขตพื้นที่ (geofencing), และการแจ้งเตือนทันที ตัวติดตามรถ 4G ใช้เสาสัญญาณเซลลูลาร์ในการส่งข้อมูล ซึ่งช่วยให้มั่นใจได้ถึงการสื่อสารที่เชื่อถือได้ แม้ในพื้นที่ที่อุปกรณ์ GPS แบบดั้งเดิมอาจทำงานได้ไม่ดี โมเดลขั้นสูงจะมีเซ็นเซอร์เพิ่มเติม เช่น เซ็นเซอร์วัดความเร่ง (accelerometer) เพื่อตรวจจับการเคลื่อนไหวที่รุนแรง เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิเพื่อตรวจสอบสภาพสินค้า และเซ็นเซอร์วัดระดับน้ำมัน เพื่อการจัดการกองยานอย่างครอบคลุม ระบบทำงานผ่านแอปพลิเคชันมือถือหรือแพลตฟอร์มเว็บที่ใช้งานง่าย ทำให้เจ้าของยานพาหนะสามารถเข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์ ปรับแต่งการตั้งค่า และรับการแจ้งเตือนได้โดยตรงบนสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ การติดตั้งโดยทั่วไปไม่จำเป็นต้องใช้ความเชี่ยวชาญทางเทคนิคมากนัก โดยอุปกรณ์ส่วนใหญ่มีการเชื่อมต่อแบบปลั๊กแอนด์เพลย์ผ่านพอร์ต OBD-II ของรถ หรือการเดินสายไฟโดยตรงกับแบตเตอรี่ ตัวติดตามรถ 4G รองรับการแจ้งเตือนหลายประเภท เช่น การแจ้งเตือนกรณีโจรกรรม การขับเกินความเร็วที่กำหนด การใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาต และการเตือนเมื่อถึงเวลาบำรุงรักษา แบตเตอรี่สำรองช่วยให้อุปกรณ์ทำงานต่อเนื่องได้แม้แหล่งจ่ายไฟของรถจะถูกตัดออก ช่วยเพิ่มความปลอดภัยจากการพยายามแทรกแซงหรือทำลายอุปกรณ์ เทคโนโลยีนี้เหมาะสำหรับหลายอุตสาหกรรม เช่น การขนส่ง โลจิสติกส์ บริการรถเช่า และการเป็นเจ้าของยานพาหนะส่วนบุคคล โดยมีโซลูชันที่สามารถขยายขนาดได้และปรับให้เหมาะสมกับความต้องการในการดำเนินงานและข้อจำกัดด้านงบประมาณที่แตกต่างกัน